วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

#9 Shibuya Shabu , สุกี้ชาบูสไตล์ญี่ปุ่น ที่มาแรงแซงทางโค้ง part1

สวัสดีอีกครั้งงงง
หลังจากห่างหายไปนานนน
ถึงแม้ช่วงนี้จะไม่ค่อยได้อัพบล็อก 
แต่รูปในสต็อกนี้แทบล้นเลยนะจ้ะ

วันนี้เลยมาเสนอร้านเด็ดจ้า นั้นก็คือ
 " Shibuya Shabu" 
ซึ่งถือว่ามาแรงมากในเวลานี้
เพราะเคยไปกินได้ 2 ครั้ง
ความแตกต่างของคนที่มารอกินนั้นต่างกันมาก
ในรอบแรก คนยังไม่เยอะเท่าไหร่
แต่สำหรับรอบสอง คนมารอเต็มร้านเลยทีเดียว



ร้านตั้งอยู่บนถนน พระราม9 อยู่ระหว่างแยกผังเมืองกับแยกอสมท. ซึ่งตัวร้าน
จะอยู่ภายในอาคารวรสมบัติ ซึ่งถ้าเดินทางจาก MRT พระราม 9 
อาจจะเดินไกลสักหน่อยประมาณ 15 นาที


ตัวร้านจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของ Shibuya Shabu ซึ่งเป็นชาบู
และในส่วนของ King Kong ซึ่งเป็นปิ้งย่าง


ซึ่งเข้ามาในร้านบรรยากาศสบายๆ โล่งๆ ไม่แออัดมาก
มาถึงเราก็มานั่งที่โต๊ะกันเลย
อาวุธพร้อมลงมือกิน :3


มีไช้เท้าสีส้ม ที่ตอนแรกคิดว่าเป็นแครอท
รูปหัวใจน่ารักมุ้งมิ้ง


อีกมุมนึงของอาวุธหลัก


มาดูกันที่เมนูเลยดีกว่า
เวลาสำหรับรับประทานอาหารจะอยู่ที่ 2 ชั่วโมง
ราคาอยู่ที่ 690 บาท net แล้ว ต่อท่าน
โดยหลักๆแล้ว
อาหารแบ่งออกเป็นสองประเภท
คือส่วนของชาบู และส่วนของซูชิ


ซึ่งสำหรับชาบูแล้ว จะเลือกน้ำซุปได้ 2 รูปแบบ
จากทั้งหมด 3 รูปแบบ

- น้ำซุปชาบู(น้ำซุปใส) 
- ซุปหางวัว(ซุปข้น)
- ซุปสุกี้(น้ำซุปสีดำ)

ท้้งนี้ได้สั่งน้ำสุกี้ กับ น้ำชาบู


ส่วนใหญ่ชาบูจะเน้นไปที่เนื้อวัวซะส่วนใหญ่
นอกนั้นจะเป็นเนื้อหมู เบคอน ไก่สับ ปลา

มาดูกันที่ของทอด + ของทานเล่นบ้าง


ต่อมาเป็นส่วนของซูชิ
ซูชิทางร้านจะแบ่งเป็น 2 SET คือ Set A กับ Set B
โดย Set จะสลับวันกัน
ซึ่งวันนี้เราได้มากิน Set B กัน


หลังจากดูของกินกันแล้ว
มาดูของจริงกันเลยดีกว่า
เริ่มจากบาร์ต่างๆก่อน

เครื่องดื่ม

บาร์ผักชาบู 

อีกมุมนึงของเครื่องชาบู

ผักอีกที (:

ตักอาหารเสร็จแล้ว ไปที่โต๊ะกันดีกว่า
จะมีกระชอน + ที่ตักน้ำซุบแช่น้ำไว้

ส่วนกาน้ำซุปก็จะมี 3 น้ำ 
น้ำสุกี้ น้ำชาบู และน้ำเปล่า เพื่อผสมให้เจือจาง 

มาถึงอาหารของเรากันบ้าง
เริ่มกันที่ข้าวผสมธัญพืช

อูด้งเต้าหู้และสาหร่าย

ผักที่ตักมาจากบาร์

สลัดผัก 

มาถึงอาหารจากเมนูที่สั่งมากันบ้าง
เริ่มต้นเบาๆด้วยไข่ตุ๋น

ต่อมาเป็นอาหารจารโปรด
โคโรเกะครีมปู 
อร่อยม๊ากกกกกกกกกกก
เนื้อครีมไม่แน่นจะบางๆ ให้รสชาติของปู
ไม่เคยกินที่ไหนอร่อยเท่าที่นี้เลย 

ต่อมาเป็นไก่ทอด ชิ้นเล็ก + แห้งไปนิด
แต่รสชาติโอเค 

กุ้งเท็มปุระ
น้ำมันไม่เยอะมาก แต่เวลาสั่ง
ถ้าจะเอาแต่กุ้งให้บอกพนักงานด้วยนะ 

มาถึงตัวหลักของชาบูกันบ้าง
เริ่มที่เนื้อสันคอหมู

เบคอนหมู 
มันเยอะไปหน่อยน้ออ  -3- 

ไก่สับกระบอก 

เนื้อปลาสด 

และเราก็เอาทุกๆอย่างรวมกันลงในหม้อ
ทาด๊าาาาา ~ 

หมูสันคอฉ่ำๆ ~ 

ต่อมาเป็นอีกส่วนหลักของอาหารมื้อนี้
ซูชิจ้า ~~~~

เริ่มกันที่ 
จานแรก เบาๆ
หอยเชลล์ ปลาโอ และ ปลาแซลมอน

หอยเชลล์
พึ่งจะเคยกินชิ้นใหญ่ขนาดนี้ 

ปลาโอ + แซลมอน 

จานต่อมาเป็น
แคลิฟอเนียมากิ + ปลาไหล + ปลาหมึก + ไข่หวาน 

แคลิฟอเนียมากิ
ถึงจะเบี้ยวๆ ต่ออร่อยหน้าดูเลย 

ที่ผ่านมาก็ลองชิมอย่างละนิดอย่างละหน่อย
พอเริ่มติดใจเท่านั้นแหละ
สั่งอีกเยอะแยะ ยาวๆเลยทีเดียว

ต่อกันที่คอมโบแซลมอน อีก 4 ชิ้น
หอยเชลล์ ปลาโอ อย่างละ 2

ต่อมาเป็น
เทมากิไข่กุ้ง + เทมากิไข่ปลา
ต้องรีบกินหน่อยนะไม่งั้นสาหร่ายที่ห่อมาจะเหี่ยว
ทำให้เคี้ยวลำบากเพราะเหนียว :3 

หน้ากุ้งหวาน
รสชาติแปลกใหม่ดี เพราะเคยแต่กุ้งธรรมดา 

ต่อด้วยแซลมอนโร โรยเกล็ดเท็มปุระ

ต่อมาเป็นอาหารจานแปลก
แซลมอนมะเขือ
ให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่มาก
เป็นอีกรสชาตินึงที่ไม่เคยสัมผัส
แต่โดยความเห็นแล้วชอบแซลมอนธรรมดามากกว่า 

ต่อกันที่ปลาโอ อีกซักนิด 

ตบท้ายด้วยปลาไหล :D 

ซึ่งซูชิทั้งหมดที่พูดถึงนั้น
มีความพิเศษมาก เพราะว่า ข้าวในซูชินั้นน้อยมาก
ในขณะที่หน้านั้นใหญ่มาก
เป็น 2-3 เท่าของข้าวได้

เรามาตบท้ายกันด้วยของหวานดีกว่า
ของหวานที่นี้มีให้เลือกเยอะมาก
และส่วนใหญ่รสชาติดีมาก


เพอราคอตต้า + เค้กช็อกโกแล็ตครีมสตอเบอรี่ 

ไอศครีมแอปเปิ้ลเชอร์เบ็ต
อันนี้ต้องสั่งพนักงานต่างหาก 

ยิ่งไปกว่านี้ยังมี วิปครีมให้บีบเองได้อีกด้วย 

โดยรวมแล้วกินเน้นหนักไปทางซูชิมากกว่าชาบู
เพราะว่าชาบูนั้นจะเน้นไปทางเนื้อ ไม่สามารถทานได้
รสชาติโดยรวมถือว่าดีมาก
เป็นร้านชาบูอันดับต้นๆเลยทีเดียวที่ได้ลองรับประทานมา
ประทับใจมากที่ซูชิคำใหญ่แต่ข้าวน้อย 
และของสดมาก
แต่การให้บริการอาจจะช้าหน่อย
เพราะใช้เวลาทำจานต่อจาน ไม่ได้ทำทิ้งไว้ โดยเฉพาะของทอด
สุดท้ายแนะนำให้ทุกคนลองแวะไปดูนะ

ปล .ใน part หน้าจะมารีวิว ซูชิ Set A ต่อนะจ้ะ
ขอให้อร่อยกับปลาดิบจ้า






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น