วันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

#10 Coco's Cafe Buffet (Xing fu) , บุฟเฟ่ติ่มซำย่านสุขุมวิท @ Novotel Lotus Bangkok


กลับมาแย้วววว ~
ต้อนรับผิดเทอม เลยมาปั่น blog ต่อ
วันนี้จะมานำเสนอ "บุฟเฟ่ติ่มซำ"
ณ ห้องอาหาร "Coco's Cafe"
ชื่อเดิมคือ ห้องอาหารจีน Xing fuu (ชั้น 8 ของโรงแรม)
ปัจจุบันย้ายมาชั้น 9 ของโรงแรม Bangkok Hotel Lotus Sukhumvit

โรงแรมตั้งอยู่ภายใน ซอย สุขุมวิท 33 โรงแรมตั้งอยู่ใกล้ๆปากซอย
จาก BTS ลงสถานีพร้อมพงษ์ แล้วเดินย้อนกลับมาทางอโศก

ในส่วนของราคาคนละ 860 net. รวมเครื่องเดิม ชาจีนร้อน ชาจีนเย็น เก็กฮวย
ถ้าใช้บัตร Accord จะสามารถใช้สิทธิกิน 1 ท่าน ฟรี 1 ท่านได้ด้วย

มาเริ่มกันเลย
เริ่มจาก
.
.
.

ด้านหน้าของห้องอาหาร

บรรยากาศภายในร้านอาหาร

อุปกรณ์ในการกิน พร้อมรบ !!!

ในส่วนของอาหารจะแบ่งเป็นสามส่วน
- ออร์เดิฟ
- อาหารจานหลัก
- ของหวาน

มาดูในส่วนแรก
ออร์เดิฟ

สลัดปูอัด

ซุปเกี้ยวกระดูกหมู
รสชาติเรียบง่าย กลมกล่อม

ซุปเนื้อปูเสฉวน
รสชาติเผ็ด เปรี้ยว อมหวานเล็กน้อย

ต่อมาเป็นในส่วนของติ่มซำ
หลากหลายอย่างมาก
ใช้เวลารอนานนิดหน่อย
เวลาสั่งเค้าจะยกมาเป็นเซต
อาหารบางชนิดจึงจำชื่อไม่ได้ ต้องอภัยด้วย


เริ่มกันที่
ซี่โครงกระดูกหมู

ฮะเก๋า
แป้งแอบเยอะไปนิดนึง แต่อร่อย

จำชื่อไม่ได้
แต่รสชาติคล้ายๆฮะเก๋า
(นึกออกแล้วว ฟ่านโก๋ นี่เองงงงงง !!)

ขนมจีบกุ้ง
โดยส่วนตัวชอบมาก อร่อย

ส่วนจานนี้
ด้านบนเป็นปูอัด พันล้อมรอบด้วย บรอโคลี่
ในส่วนของข้างใต้เป็นหมู

ก๋วยเตี๋ยวหลอด

เกี้ยวกุ้งนึ่ง

กุ้งราดซอสยำ

หมูห่อสาหร่าย

ต่อมาเป็นในส่วนของ ของทอด
เริ่มกันที่
กุ้ยช่ายทอด

เปาะเปี้ยะกุ้งทอด


ให้ความรู้สึกเหมือนเกี๊ยวซ่าทอด

ขนมผักกาด

ต่อมาเริ่มกันในส่วนของจานหลัก
เป็ดย่างหมูแดง

เสริฟพร้อมผักเครื่องเคียง

หมี่ผัด

ปิดท้ายกันด้วย
ซาลาเปาไส้หมูแดง

ซาลาเปาไส้ครีม

ในส่วนสุดท้าย
เป็นในส่วนของของหวาน

ผลไม้

พุดดิ้งมะม่วง
อร่อยมาก แต่บางอาหารครั้งหมด 

สาคูแคนตาลูป

โดยรวมแล้วมากี่ที่นี้ ถ้านับแค่ร้านอาหารติ่มซำ ก็คือร้านอาหารติ่มซำที่มากินบ่อยมาก
ราคาไม่แพงมากเพราะมีบัตร Accord ได้ส่วนลด 50 % (ราคาจริงก็เอาเรื่องอยู่)
แต่ก่อนร้านอาหารจะตั้งอยู่ชั้น 8 แต่ตอนนี้ปิดทำการปรับปรุง จึงย้ายมารวมกับชั้น 9 
ซึ่งเป็นร้านอาหารอินเดีย

อาหารส่วนใหญ่ก็เน้นไปทางติ่มซำ แต่ร้านนี้ของหวานอร่อย
โดยเฉพาะ พุดดิ้งมะม่วง !! 
อย่าลืมเผื่อท้องไว้สำหรับของหวานด้วยนะ (:




วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

#9.2 Shibuya Shabu , สุกี้ชาบูสไตล์ญี่ปุ่น ที่มาแรงแซงทางโค้ง part2

คิดถึงบล๊อกนี้จัง (:
.
.
.

เรียกได้ว่าห่างหายไปนานมากกกกกก
จากการเขียนบล๊อกอาหาร เนื่องจากงานที่ยุ่งมากมาย
แต่พอดีถึงช่วงหยุดยาวก่อนสอบพอดี
เลยแวะมาเขียน part 2 ต่อดีกว่า

สำหรับ Part 2
จะเป็นการรีวิวอาหารในส่วนของซูชิเซ็ต A
(Part ที่แล้วเป็นในส่วนของง เซ็ต B)

สำหรับในส่วนของเซ็ต A
จะมีในส่วนของ
ข้าวปั้นหน้าแซลมอล( มีทั้งสองเซ็ต ) ข้าวปั้นหน้าปลากระพุง ข้าวปั้นหน้าเนื้อวากุพิเศษ
ข้าวปั้นหน้าเป็ดย่าง ข้าวปั้นหน้าหอยปีกนก ข้าวปั้นหน้าปลาหมึก 
ข้าวปั้นหน้าไข่หวาน ข้าวปั้นหน้ากุ้ง ข้าวห่อไข่ปลาแซลมอน ข้าวห่อหน้ายำสาหร่าย
เทมปุระมากิ และ อาโวคาโดมากิ


รูปแรกเป็นในส่วยของ
ข้าวห่อไข่ปลาแซลมอน
ไข่ปลาแซลมอนกลมโต *O*


ต่อมาเป็นเทมปุระมากิ
เป็นอะไรที่กรุบกรอบทั้งอัน 
ให้ความรู้สึกเหมือนซูิชทอดเลยทีเดียว


ต่อมาเป็นในส่วนของ
ข้าวปั้นหน้าปลาหมึก และข้าวปั้นหน้าเป็ดย่าง
ข้าวปั้นหน้าปลาหมึกจะค่อนข้างเหนียวอาจจะเคี้ยวลำบากหน่อย
ส่วนข้าวปั้นหน้าเป็ดย่าง 
ก็เป็นอีกความรู้สึกแปลกใหม่ของซูชิเช่นกัน


วันที่เกินทางร้านก็ได้เพิ่มเมนูใหม่มาด้วย
นั้นก้คือ หมูชีสสส
วิธีกินอาจจะยากหน่อย ต้องคอยห่อชีสดีๆไม่ให้รั่ว
เอาไปจุ่มซักพักให้นำขึ้นเลย
ชีสจะละลายพอดี พร้อมกับเนื้อหมูที่เกือบสุด
ให้ความอร่อยที่สุดยอดมาก !!


สุดท้ายก็ขอปิดท้ายด้วยของหวาน (:
ของหวานที่นี้มีเยอะมาก และอร่อยเกือบทุกอย่าง
ที่สำคัญสามารถเติมวิปครีมได้เรื่อยๆด้วยนะ



สำหรับร้านชาบูชิบูย่า ในช่วงหลังๆนี้คนเยอะมาก หลังจากการไปกินเพียง 2 ครั้ง ก็ไม่มีโอกาส
ที่จะได้กินอีกเลยเพราะคิวค่อนข้างยาว จะไปกินอีกก็รออย่างต่ำ 2 ชั่วโมง
ถ้าจะไปกินร้านนี้แนะนำให้ไปในวันทำงาน หรือช่วงเวลาที่ไม่ใช่เวลามื้ออาหาร
หรือมีเวลามากพอที่จะรอคิวได้

ในส่วนของรสชาติอาหาร ถือว่าดีมาก คุ้มค่ากับราคา
แต่อาจจะรออาหารค่อนข้างนานหน่อย เพราะแต่ละจาน เค้าทำใหม่ทุกจาน
ไม่ได้ทำอาหารเผื่อไว้ล่วงหน้า

ถ้ามีโอกาสจะแวะไปทานอีกแน่นอน (:



วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

#9 Shibuya Shabu , สุกี้ชาบูสไตล์ญี่ปุ่น ที่มาแรงแซงทางโค้ง part1

สวัสดีอีกครั้งงงง
หลังจากห่างหายไปนานนน
ถึงแม้ช่วงนี้จะไม่ค่อยได้อัพบล็อก 
แต่รูปในสต็อกนี้แทบล้นเลยนะจ้ะ

วันนี้เลยมาเสนอร้านเด็ดจ้า นั้นก็คือ
 " Shibuya Shabu" 
ซึ่งถือว่ามาแรงมากในเวลานี้
เพราะเคยไปกินได้ 2 ครั้ง
ความแตกต่างของคนที่มารอกินนั้นต่างกันมาก
ในรอบแรก คนยังไม่เยอะเท่าไหร่
แต่สำหรับรอบสอง คนมารอเต็มร้านเลยทีเดียว



ร้านตั้งอยู่บนถนน พระราม9 อยู่ระหว่างแยกผังเมืองกับแยกอสมท. ซึ่งตัวร้าน
จะอยู่ภายในอาคารวรสมบัติ ซึ่งถ้าเดินทางจาก MRT พระราม 9 
อาจจะเดินไกลสักหน่อยประมาณ 15 นาที


ตัวร้านจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของ Shibuya Shabu ซึ่งเป็นชาบู
และในส่วนของ King Kong ซึ่งเป็นปิ้งย่าง


ซึ่งเข้ามาในร้านบรรยากาศสบายๆ โล่งๆ ไม่แออัดมาก
มาถึงเราก็มานั่งที่โต๊ะกันเลย
อาวุธพร้อมลงมือกิน :3


มีไช้เท้าสีส้ม ที่ตอนแรกคิดว่าเป็นแครอท
รูปหัวใจน่ารักมุ้งมิ้ง


อีกมุมนึงของอาวุธหลัก


มาดูกันที่เมนูเลยดีกว่า
เวลาสำหรับรับประทานอาหารจะอยู่ที่ 2 ชั่วโมง
ราคาอยู่ที่ 690 บาท net แล้ว ต่อท่าน
โดยหลักๆแล้ว
อาหารแบ่งออกเป็นสองประเภท
คือส่วนของชาบู และส่วนของซูชิ


ซึ่งสำหรับชาบูแล้ว จะเลือกน้ำซุปได้ 2 รูปแบบ
จากทั้งหมด 3 รูปแบบ

- น้ำซุปชาบู(น้ำซุปใส) 
- ซุปหางวัว(ซุปข้น)
- ซุปสุกี้(น้ำซุปสีดำ)

ท้้งนี้ได้สั่งน้ำสุกี้ กับ น้ำชาบู


ส่วนใหญ่ชาบูจะเน้นไปที่เนื้อวัวซะส่วนใหญ่
นอกนั้นจะเป็นเนื้อหมู เบคอน ไก่สับ ปลา

มาดูกันที่ของทอด + ของทานเล่นบ้าง


ต่อมาเป็นส่วนของซูชิ
ซูชิทางร้านจะแบ่งเป็น 2 SET คือ Set A กับ Set B
โดย Set จะสลับวันกัน
ซึ่งวันนี้เราได้มากิน Set B กัน


หลังจากดูของกินกันแล้ว
มาดูของจริงกันเลยดีกว่า
เริ่มจากบาร์ต่างๆก่อน

เครื่องดื่ม

บาร์ผักชาบู 

อีกมุมนึงของเครื่องชาบู

ผักอีกที (:

ตักอาหารเสร็จแล้ว ไปที่โต๊ะกันดีกว่า
จะมีกระชอน + ที่ตักน้ำซุบแช่น้ำไว้

ส่วนกาน้ำซุปก็จะมี 3 น้ำ 
น้ำสุกี้ น้ำชาบู และน้ำเปล่า เพื่อผสมให้เจือจาง 

มาถึงอาหารของเรากันบ้าง
เริ่มกันที่ข้าวผสมธัญพืช

อูด้งเต้าหู้และสาหร่าย

ผักที่ตักมาจากบาร์

สลัดผัก 

มาถึงอาหารจากเมนูที่สั่งมากันบ้าง
เริ่มต้นเบาๆด้วยไข่ตุ๋น

ต่อมาเป็นอาหารจารโปรด
โคโรเกะครีมปู 
อร่อยม๊ากกกกกกกกกกก
เนื้อครีมไม่แน่นจะบางๆ ให้รสชาติของปู
ไม่เคยกินที่ไหนอร่อยเท่าที่นี้เลย 

ต่อมาเป็นไก่ทอด ชิ้นเล็ก + แห้งไปนิด
แต่รสชาติโอเค 

กุ้งเท็มปุระ
น้ำมันไม่เยอะมาก แต่เวลาสั่ง
ถ้าจะเอาแต่กุ้งให้บอกพนักงานด้วยนะ 

มาถึงตัวหลักของชาบูกันบ้าง
เริ่มที่เนื้อสันคอหมู

เบคอนหมู 
มันเยอะไปหน่อยน้ออ  -3- 

ไก่สับกระบอก 

เนื้อปลาสด 

และเราก็เอาทุกๆอย่างรวมกันลงในหม้อ
ทาด๊าาาาา ~ 

หมูสันคอฉ่ำๆ ~ 

ต่อมาเป็นอีกส่วนหลักของอาหารมื้อนี้
ซูชิจ้า ~~~~

เริ่มกันที่ 
จานแรก เบาๆ
หอยเชลล์ ปลาโอ และ ปลาแซลมอน

หอยเชลล์
พึ่งจะเคยกินชิ้นใหญ่ขนาดนี้ 

ปลาโอ + แซลมอน 

จานต่อมาเป็น
แคลิฟอเนียมากิ + ปลาไหล + ปลาหมึก + ไข่หวาน 

แคลิฟอเนียมากิ
ถึงจะเบี้ยวๆ ต่ออร่อยหน้าดูเลย 

ที่ผ่านมาก็ลองชิมอย่างละนิดอย่างละหน่อย
พอเริ่มติดใจเท่านั้นแหละ
สั่งอีกเยอะแยะ ยาวๆเลยทีเดียว

ต่อกันที่คอมโบแซลมอน อีก 4 ชิ้น
หอยเชลล์ ปลาโอ อย่างละ 2

ต่อมาเป็น
เทมากิไข่กุ้ง + เทมากิไข่ปลา
ต้องรีบกินหน่อยนะไม่งั้นสาหร่ายที่ห่อมาจะเหี่ยว
ทำให้เคี้ยวลำบากเพราะเหนียว :3 

หน้ากุ้งหวาน
รสชาติแปลกใหม่ดี เพราะเคยแต่กุ้งธรรมดา 

ต่อด้วยแซลมอนโร โรยเกล็ดเท็มปุระ

ต่อมาเป็นอาหารจานแปลก
แซลมอนมะเขือ
ให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่มาก
เป็นอีกรสชาตินึงที่ไม่เคยสัมผัส
แต่โดยความเห็นแล้วชอบแซลมอนธรรมดามากกว่า 

ต่อกันที่ปลาโอ อีกซักนิด 

ตบท้ายด้วยปลาไหล :D 

ซึ่งซูชิทั้งหมดที่พูดถึงนั้น
มีความพิเศษมาก เพราะว่า ข้าวในซูชินั้นน้อยมาก
ในขณะที่หน้านั้นใหญ่มาก
เป็น 2-3 เท่าของข้าวได้

เรามาตบท้ายกันด้วยของหวานดีกว่า
ของหวานที่นี้มีให้เลือกเยอะมาก
และส่วนใหญ่รสชาติดีมาก


เพอราคอตต้า + เค้กช็อกโกแล็ตครีมสตอเบอรี่ 

ไอศครีมแอปเปิ้ลเชอร์เบ็ต
อันนี้ต้องสั่งพนักงานต่างหาก 

ยิ่งไปกว่านี้ยังมี วิปครีมให้บีบเองได้อีกด้วย 

โดยรวมแล้วกินเน้นหนักไปทางซูชิมากกว่าชาบู
เพราะว่าชาบูนั้นจะเน้นไปทางเนื้อ ไม่สามารถทานได้
รสชาติโดยรวมถือว่าดีมาก
เป็นร้านชาบูอันดับต้นๆเลยทีเดียวที่ได้ลองรับประทานมา
ประทับใจมากที่ซูชิคำใหญ่แต่ข้าวน้อย 
และของสดมาก
แต่การให้บริการอาจจะช้าหน่อย
เพราะใช้เวลาทำจานต่อจาน ไม่ได้ทำทิ้งไว้ โดยเฉพาะของทอด
สุดท้ายแนะนำให้ทุกคนลองแวะไปดูนะ

ปล .ใน part หน้าจะมารีวิว ซูชิ Set A ต่อนะจ้ะ
ขอให้อร่อยกับปลาดิบจ้า