วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2557

#4 Swiss sheep Farm , ฟาร์มแกะ ณ ชะอำ (:



เย้ ~ !!
ตอนนี้เรากำลังมุ่งหน้าสู่ชะอำ 
แต่ระหว่างทางนั้นเราได้เจอกับ ฟาร์มแกะ o_O
Swiss sheep farm 
เราจึงได้จอดรถลองแวะเข้าไปดู
บรรยากาศของฟาร์มแกะ ณ ชะอำ

มาเริ่มกันเลยดีกว่า

Swiss sheep farm

สถานี่ของฟาร์มแกะนี้อยู่ใกล้ๆ กับสวนน้ำซาโตรินี 
ตรงหลัก กม.ที่ 201 บนถนนเพชรเกษม ทางไปชะอำ
วันจันทร์ - ศุกร์ เปิด 10.00 - 19.00
ส่วนวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิด 09.00 - 19.00


ทางเข้าของหน้าฟาร์ม
มีลานจอดรถค่อนข้างกว้างและใหญ่พอตัว

ในขั้นแรกเราก็ต้องซื้อบัตรเข้าชมฟาร์มก่อน
ณ ห้องซื้อบัตร


สำหรับ ราคาปกติ ผู้ใหญ่ 50 บาท 
ส่วนเด็ก 30 บาท 


มากับครอบครัว รวมทั้งหมด 4 ใบ
ขั้วบัตรด้านล่างของตั๋วเข้าชม
สามารถนำไปแลกอาหารให้แกะได้ด้วย

รูปทางเข้าฟาร์ม


ป้ายบอกทางง >_<
น่ารักมีสไตล์


ระหว่างทางเดินก็จะมีคอกกว้างๆ
สำหรับเลี้ยงม้า


มีรูปปั้น + หุ่นตั้งโชว์ตลอดทางเดิน


วงเวียนรูปปั้นแกะ ~
ซึ่งใกล้จะถึงกับฟาร์มเลี้ยงแกะแล้ว


ป้ายราคาบอกอาหารแกะ
และกิจกรรมต่างๆในบริเวณรอบๆ


มาถึงฟาร์มแกะแล้ว
เราก็แลกขั้วบัตรที่ได้จากตอนซื้อหน้าฟาร์ม
มาเป็นอาหารเลี้ยงแกะ


แกะเยอะ~
และแลดูหิวมาก


ถ้าสังเกตดีๆ จะมีแกะบางตัว
ก้มกินเศษหน้าข้างล่างที่หล่น
ทำให้เกิดการเหยียบกันของแกะ
น่ารักดี





เมื่อให้อาหารเสร็จ(หญ้า)
ก็มีอ่างล้างมือไว้บริการ


พอเสร็จภาระกิจการเลี้ยงแกะเสร็จ
เราก็เดินต่อไปรอบๆฟาร์มเพื่อหากิจกรรมอย่างอื่นทำต่อ



มีไก่ในฟาร์มด้วย ตัวใหญ่อ้วน
อยู่กันเป็นกลุ่มๆ กินอาหาร น่ารักมาก


มีบริการรถม้าวิ่งรอบๆสวนด้วย


และเราก็เดินมาถึงส่วนของ อัลปาก้า


ซึ่งตอนแรกนั้นคิดว่าอัลปาก้าเป็นแกะคอยาว
แต่พอได้อ่านข้อมูลแล้ว ถึงได้รู้ว่า
อัลปาก้าเป็นสัตว์ตระกูลอูฐ


และด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เลยอยากเข้าไปดูอัลปาก้าตัวเป็นๆ
ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่าย
ค่าเข้า ผู้ใหญ่คนละ 100 บาท
โดยจะมีอาหารให้อัลปาก้ากินด้วย


ซึ่งอัลปาก้านั้น 
ได้ถูกเลี้ยงในห้องแอร์ ที่พื้นเต็มไปด้วยทราย
เพื่อจำลองที่อยู่อาศัยในทะเลทรายของมันมา
เราจึงต้องสวมถุงเพื่อป้องกัน
อุจจาระและปัสสาวะของอัลปาก้า ที่อยู่บนพื้นทราย


ทางเข้าห้องเพื่อไปดูอัลปาก้า


พอเปิดประตูเข้าไป
สิ่งที่พบคือ
อัลปาก้าฝูงใหญ่อยู่ตรงหน้า
ตาทุกดวงจับจ้องมาที่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าประตู
นั้นก็คือ อาหารบนมือของพี่พนักงาน
ตอนแรกเค้าบอกให้เราเป็นคนเอาไปให้เอง
แต่ด้วยความหน้ากลัวของสายตาที่จับจ้องมา
เลยให้พี่พนักงานเป็นคนให้แทน



อัลปาก้าตัวค่อยข้างใหญ่มาก บางตัวสูง(รวมคอของมันแล้ว)
ประมาณเมตรครึ่งได้เลย


อัลปาก้าเป็นสัตว์ที่อยู่ไม่ค่อยนิ่ง โดยเฉพาะคอของมัน
ทำให้ถ่ายรูปค่อนข้างลำบาก
และเวลามันไม่พอใจอะไร มันจะถุยน้ำลายใส่หน้าคนนั้นๆ
ซึ่งเห็นมาแล้วกับตา (แต่ไม่ใช่กับตัวเอง)


เวลามันทำธุระส่วนตัวก็เช่นกัน
ก็ทำมันดื้อๆซะตรงนั้น ไม่ได้แคร์สิ่งรอบข้างกันเลยทีเดียว

นอกจากอัลปาก้าจะกินอาหารเม็ดแล้ว
มันยังกินฟางหรือพวกหญ้าแห้งอีกด้วย


น่ารักกกกกกก


ซึ่งหลังจากดูอัลปาก้าเสร็จ
เราออกมาก็เจอกับ Prairie dog (:
เรียกอีกอย่างว่า กระรอกดิน
หรือจะกระรอกสุนัข ก็ได้นะ
เป็นกระรอกตัวอ้วนกลม ที่สามารถเห่าเหมือนสุนัขได้
ขี้เล่นและน่ารักมาก
เห็นแล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้เลยทีเดียว
มีขายที่จตุจักรด้วย 
เป็นสัตว์ที่กำลังมาแรงเลยทีเดียว



 เสร็จจากการดูสัตว์ต่างๆ
เราก็มาสัมผัสกับบรรยากาศ รอบๆฟาร์มต่อ
ซึ่งก็มีบางมุมของฟาร์ม 
ที่ได้จัดทำขึ้นมาเป็นซุ่มถ่ายรูปน่ารักๆ
สำหรับคู่รัก




จากช่วงที่ไปที่ฟาร์มนี้คือช่วงปลายธันวาคม
Theme ของสวนเลยจัดออกมาในรูปแบบ
Christmas และปีใหม่ด้วย





ใกล้ๆบริเวณทางออกจะมี
เครื่องเล่นต่างๆสำหรับเด็ก


นอกจากแกะแล้วยังมีแรดด้วยนะ (:


ในส่วนของทางออกนั้น
ได้จัดเป็นร้านขายของที่ระลึก



ถึงทางออกแล้วจ้า (:
เดินทางกันต่อโดยสวัสดิภาพ !!










วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557

#3 ครัวเคียงคลื่น ชะอำ , ความอร่อยของทะเล



เข้าสู่หน้าหนาวแล้ว และอยู่ในช่วงปิดเทอมซะด้วย
จึงเป็นโอกาสที่ดีอย่างมากที่จะหาที่เที่ยว
ยิ่งถ้าเป็นภูเขาหรือบนดอยอากาศคงจะดีมากๆเลย
เพราะฉะนั้นเราจึงได้ตัดสินใจไป
.
.
.
ทะเล
หาดชะอำ จังหวัดเพชรบุรี


ไปทะเลหน้าหนาวก็ได้อีกอารมณ์นึงนะ
ฟ้าจะโปร่งสีกลืนกับทะเล ไม่ค่อยมีเมฆ
ส่วนในช่วงเช้าจะมีหมอกลง
ซึ่งเป็นอีกบรรยากาศสำหรับทะเลเลยแหละ

แต่สำหรับอาหารทะเลนั้นไม่ว่าจะหน้าร้อนหรือหน้าหนาว
ก็ยังน่าอร่อยอยู่ดีนั้นแหละ
วันนี้เราเลยพามากินที่ร้าน ครัวเคียงคลื่น จ้า

บรรยากาศภายในร้าน
ช่วงที่ไปอาจจะไปค่อนข้างเช้า
เลยยังไม่มีคนมาที่ร้านซักเท่าไหร่ เลยจับจองเลือกโต้ะตามอัธยาศัย


เมนูของร้านจ้า
เมนูเด่นๆก็จะอยู่ในรายการอาหารแนะนำนี่แหละ

ระหว่างรอสั่งอาหารก็เดินดูรอบๆร้าน
บรรยากาศดีมาก ติดทะเล

 ติดทะเลทั้งสองด้านของร้านเลย


อุปกรณ์ในการกิน (:

หลังจากรอได้ซักพัก อาหารก็มาแล้วจ้า

เรามาเริ่มกันด้วย
จานแรก กุ้งนึ่ง
กุ้งตัวไม่ใหญ่มาก แต่ราคาก็ไม่แพงมากเช่นกัน
ส่วนในจานนี้คือ กุ้งนึ่งครึ่งโล


ต่อมาคือ หมึกดำ
อาหารจานนี้เป็นอาหารที่ชอบมากที่สุด 
ที่จริงแล้วมันก็คือปลาหมึกผัดกระเทียมแล้วราดด้วยน้ำหมึกอีกทีนั้นเอง
รสชาติอร่อยมาก เลยสั่งไป 2 จาน
 

 ต่อมาเป็น ยำหอยนางรม
เนื่องจากเป็นคนไม่ชอบกินหอย 
เลยลองกินไปชิ้นนึง รู้สึกได้ถึงความสด
แต่ไม่รู้ว่ารสชาติดีไหม 55

ต่อมาเป็น ต้มยำกุ้ง
อาหารไทยที่ใครๆก็รู้จัก
รสชาติดี กุ้งน้อยไปนิด 
ไม่แน่ใจว่าโดนแย่งกินหมดหรือเปล่า
แต่โดยรวมถือว่าผ่าน
 

มาถึงจานเด็ด เนื้อปูผัดผงกระหรี่
อร่อยมาก เนื้อปูเยอะได้ใจ
รสชาติดีเลิศ สมกับที่เป็นเมนูแนะนำของทางร้าน
 

ต่อมาเป็นปลาทอดราดน้ำปลา
จานนี้รสชาติทั่วๆไป ไม่ได้เด่นมาก
ปลาค่อนข้างตัวเล็กด้วย
 

ข้าวสวย :D
 

มาถึงตรงนี้ ทุกคนในโต้ะอาหารเห็นอาหารแล้วรู้สึกได้ถึงความเยอะ
และคิดว่าไม่สามารถกินได้หมดเป็นแน่แท้
แต่อาหารของเราที่สั่งไปก็ยังไม่หมดเพียงแค่นี้

ยังคงมี ปูนึ่งหนึ่งโล
ในส่วนของปูนั้น
ปูค่อนข้างตัวเล็ก
ปูเนื้อไม่เยอะมากเท่าไหร่ แต่รสชาติดี 

อาหารโดยรวม :D

แต่เห็นเยอะขนาดนี้ คิดว่าจะกินกันไม่หมด
แต่พอกินจริงๆ ก็หมดนะ แถมไม่อิ่มเท่าไหร่
เพราะอาหารแต่ละจานไม่ได้เยอะมากอย่างที่คิด

มาถึงคราวของราคาอาหารบ้างหล่ะ
อาหารแพงกว่าที่คิดไว้
เพราะตรงปูนึ่งเนี่ยะแหละ
ราคาค่อนข้างแพง ถ้าเทียบกับปูที่ได้
แต่ราคาในส่วนของอาหารจานอื่นๆนั้นถือว่าถูกเลยทีเดียว


ปิดท้ายด้วยเจ้าแมวน้อย
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของซากปลา
ซัดคนเดียวซะหมดเลย


ร้านนี้อาหารอร่อย ราคาไม่แพงเท่าไหร่นัก(ถ้าเลือกอาหารดีๆ) 
บรรยากาศดี เห็นทะเลสวย
แต่ในร้านอาจจะมีแมลงวันมากวนใจบ้าง 
ห้องน้ำสะอาด มีหลายห้อง 
ลานจอดรถค่อนข้างกว้าง
ถ้าใครแวะมาก็อย่าลืมทักทายเจ้าเหมียวล้ะ (: