เย้ ~ !!
ตอนนี้เรากำลังมุ่งหน้าสู่ชะอำ
แต่ระหว่างทางนั้นเราได้เจอกับ ฟาร์มแกะ o_O
Swiss sheep farm
เราจึงได้จอดรถลองแวะเข้าไปดู
บรรยากาศของฟาร์มแกะ ณ ชะอำ
มาเริ่มกันเลยดีกว่า
Swiss sheep farm
สถานี่ของฟาร์มแกะนี้อยู่ใกล้ๆ กับสวนน้ำซาโตรินี
ตรงหลัก กม.ที่ 201 บนถนนเพชรเกษม ทางไปชะอำ
วันจันทร์ - ศุกร์ เปิด 10.00 - 19.00
ส่วนวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิด 09.00 - 19.00
ทางเข้าของหน้าฟาร์ม
มีลานจอดรถค่อนข้างกว้างและใหญ่พอตัว
ในขั้นแรกเราก็ต้องซื้อบัตรเข้าชมฟาร์มก่อน
ณ ห้องซื้อบัตร
สำหรับ ราคาปกติ ผู้ใหญ่ 50 บาท
ส่วนเด็ก 30 บาท
มากับครอบครัว รวมทั้งหมด 4 ใบ
ขั้วบัตรด้านล่างของตั๋วเข้าชม
สามารถนำไปแลกอาหารให้แกะได้ด้วย
รูปทางเข้าฟาร์ม
ป้ายบอกทางง >_<
น่ารักมีสไตล์
ระหว่างทางเดินก็จะมีคอกกว้างๆ
สำหรับเลี้ยงม้า
มีรูปปั้น + หุ่นตั้งโชว์ตลอดทางเดิน
วงเวียนรูปปั้นแกะ ~
ซึ่งใกล้จะถึงกับฟาร์มเลี้ยงแกะแล้ว
ป้ายราคาบอกอาหารแกะ
และกิจกรรมต่างๆในบริเวณรอบๆ
มาถึงฟาร์มแกะแล้ว
เราก็แลกขั้วบัตรที่ได้จากตอนซื้อหน้าฟาร์ม
มาเป็นอาหารเลี้ยงแกะ
แกะเยอะ~
และแลดูหิวมาก
ถ้าสังเกตดีๆ จะมีแกะบางตัว
ก้มกินเศษหน้าข้างล่างที่หล่น
ทำให้เกิดการเหยียบกันของแกะ
น่ารักดี
เมื่อให้อาหารเสร็จ(หญ้า)
ก็มีอ่างล้างมือไว้บริการ
พอเสร็จภาระกิจการเลี้ยงแกะเสร็จ
เราก็เดินต่อไปรอบๆฟาร์มเพื่อหากิจกรรมอย่างอื่นทำต่อ
มีไก่ในฟาร์มด้วย ตัวใหญ่อ้วน
อยู่กันเป็นกลุ่มๆ กินอาหาร น่ารักมาก
มีบริการรถม้าวิ่งรอบๆสวนด้วย
และเราก็เดินมาถึงส่วนของ อัลปาก้า
ซึ่งตอนแรกนั้นคิดว่าอัลปาก้าเป็นแกะคอยาว
แต่พอได้อ่านข้อมูลแล้ว ถึงได้รู้ว่า
อัลปาก้าเป็นสัตว์ตระกูลอูฐ
และด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เลยอยากเข้าไปดูอัลปาก้าตัวเป็นๆ
ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่าย
ค่าเข้า ผู้ใหญ่คนละ 100 บาท
โดยจะมีอาหารให้อัลปาก้ากินด้วย
ซึ่งอัลปาก้านั้น
ได้ถูกเลี้ยงในห้องแอร์ ที่พื้นเต็มไปด้วยทราย
เพื่อจำลองที่อยู่อาศัยในทะเลทรายของมันมา
เราจึงต้องสวมถุงเพื่อป้องกัน
อุจจาระและปัสสาวะของอัลปาก้า ที่อยู่บนพื้นทราย
ทางเข้าห้องเพื่อไปดูอัลปาก้า
พอเปิดประตูเข้าไป
สิ่งที่พบคือ
อัลปาก้าฝูงใหญ่อยู่ตรงหน้า
ตาทุกดวงจับจ้องมาที่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าประตู
นั้นก็คือ อาหารบนมือของพี่พนักงาน
ตอนแรกเค้าบอกให้เราเป็นคนเอาไปให้เอง
แต่ด้วยความหน้ากลัวของสายตาที่จับจ้องมา
เลยให้พี่พนักงานเป็นคนให้แทน
อัลปาก้าตัวค่อยข้างใหญ่มาก บางตัวสูง(รวมคอของมันแล้ว)
ประมาณเมตรครึ่งได้เลย
อัลปาก้าเป็นสัตว์ที่อยู่ไม่ค่อยนิ่ง โดยเฉพาะคอของมัน
ทำให้ถ่ายรูปค่อนข้างลำบาก
และเวลามันไม่พอใจอะไร มันจะถุยน้ำลายใส่หน้าคนนั้นๆ
ซึ่งเห็นมาแล้วกับตา (แต่ไม่ใช่กับตัวเอง)
เวลามันทำธุระส่วนตัวก็เช่นกัน
ก็ทำมันดื้อๆซะตรงนั้น ไม่ได้แคร์สิ่งรอบข้างกันเลยทีเดียว
นอกจากอัลปาก้าจะกินอาหารเม็ดแล้ว
มันยังกินฟางหรือพวกหญ้าแห้งอีกด้วย
น่ารักกกกกกก
ซึ่งหลังจากดูอัลปาก้าเสร็จ
เราออกมาก็เจอกับ Prairie dog (:
เรียกอีกอย่างว่า กระรอกดิน
หรือจะกระรอกสุนัข ก็ได้นะ
เป็นกระรอกตัวอ้วนกลม ที่สามารถเห่าเหมือนสุนัขได้
ขี้เล่นและน่ารักมาก
เห็นแล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้เลยทีเดียว
มีขายที่จตุจักรด้วย
เป็นสัตว์ที่กำลังมาแรงเลยทีเดียว
เสร็จจากการดูสัตว์ต่างๆ
เราก็มาสัมผัสกับบรรยากาศ รอบๆฟาร์มต่อ
ซึ่งก็มีบางมุมของฟาร์ม
ที่ได้จัดทำขึ้นมาเป็นซุ่มถ่ายรูปน่ารักๆ
สำหรับคู่รัก
จากช่วงที่ไปที่ฟาร์มนี้คือช่วงปลายธันวาคม
Theme ของสวนเลยจัดออกมาในรูปแบบ
Christmas และปีใหม่ด้วย
ใกล้ๆบริเวณทางออกจะมี
เครื่องเล่นต่างๆสำหรับเด็ก
นอกจากแกะแล้วยังมีแรดด้วยนะ (:
ในส่วนของทางออกนั้น
ได้จัดเป็นร้านขายของที่ระลึก
ถึงทางออกแล้วจ้า (:
เดินทางกันต่อโดยสวัสดิภาพ !!